วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Omega Life 3 น้ำมันปลา-มีโอเมก้า 3 Omega3-Life บำรุงหัวใจ ระบบประสาท โทร 087-8333-999

Omega Life 3 น้ำมันปลา มีโอเมก้า 3 บำรุงหัวใจ ระบบประสาท  น้ำมันปลา Omega Life 3 บำรุงสมอง ความจำ ระบบประสาท ป้องกันโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต  
 
Omega Life 3

น้ำมันปลา-มีโอเมก้า 3

Omega3-Life  
 
บำรุงหัวใจ ระบบประสาท


omega3 น้ำมันปลา โอเมก้า3 unicity


น้ำมันปลา Omega Life 3


บำรุงสมอง ความจำ ระบบประสาท


ป้องกันโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต


รักษาไขข้ออักเสบ บำรุงผิวพรรณ


omega life3 unicity


โอเมก้า ไลฟ์ 3

(Omega Life 3)




Omega 3 โอเมก้า 3 Unicity


omega life -3 โอเมก้า 3 บำรุงสมอง

OMEGA LIFE 3 เป็นการผสมผสาน


ของกรดไขมันโอเมก้า 3


ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบหัวใจ


หลอด เลือด รวมถึงสมอง  เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น


ช่วยยับยั้งความเสื่อมของเซลล์ก่อนวันอันควร


OMEGA LIFE 3

มีลักษณะเป็นสารสีเหลืองอำพัน



มีความหนืดเล็กน้อย ละลายในไขมัน


แต่ละเม็ดประกอบด้วย ไอโคซาเพนตาอีโนอิค

(Elcosapentaenoic acid : EPA) 800 มิลลิกรัม

โดโคซาเฮกซาอีโนอิค (Docosahexaenoic acid

DHA 400 มิลลิกรัม และวิตามินอี


นอกจากนี้ยังประกอบด้วย เจลาติน, กลีเซอรีน

น้ำบริศุทธิ์ (purifiled water)

น้ำมันผิวส้ม (orange oil)

OMEGA LIFE 3 ผ่านกรรมวิธีการกลั่นบริสุทธิ์

มีการผสมน้ำมันผิวส้ม (orange oil)

เพื่อป้องกันการเหม็นคาว


ข้อแนะนำการใช้ : รับประทานมื้อละ 2 เม็ด

พร้อมอาหาร (แนะนำทานควบคู่กับ V Plus)


ปกติแล้ว OMEGA LIFE 3 ไม่ก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ

แต่อาจจะพบการแน่นท้อง ท้องอืด

ท้องเฟ้อได้บ้างเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดอื่นๆ

และอาจจะรู้สึกเหม็นคาวขณะรับประทานได้บ้างบางครั้ง


บรรจุภัณฑ์ : เป็นลักษณะแคปซูลใสสีเหลืออำพัน

ขนาดเล็ก 120 แคปซูล

ผลการวิจันแนะนำว่าการบริโภคน้ำมันปลา

จะช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง และ ประสิทธิภาพ

ในการมองเห็น ในปี ค.ศ. 2002 องค์การอาหารและยาของสหรัฐ

ได้อนุญาตให้มีสารประกอบของดีเอชเอในอาหาร

สำหรับ ทารก ซึ่งดีเอชเอเป็นสารประกอบที่สำคัญ

ต่อพัฒนาการของเซลล์สมองของเด็กทารก

นอกจากนี้ดีเอชเอ และกรดอาแรคคคิโดนิก (Arachidonic acid)

ยังเป็นสารประกอบที่สำคัญของสมองและจอประสาทตา

ที่เด็กทารกเกิดถึงสามเดือน แรกควรจะได้รับเป็นอย่างยิ่ง

ดีเอชเอยังเป็นโครงสร้างหลักที่ สำคัญในระบบ ประสาท

ส่วนกลางและจอประสาท

อีพีเอเป็นตัวช่วยสังเคราะห์สารสำคัญต่างๆในร่างกาย

โดยเป็นสารตั้งต้นของทรอมโบเซน (thromboxane)

และลิวโคเทียน่า (leukotriena) ซึ่งสารประกอบเหล้านี้

จะช่วยส่งเสริมภาวะสุขภาพของผู้รับประทานให้สมบูรณ์

แข็งแรงอยู่เสมอ แล้วยังช่วยกระตุ้นความสมบูรณ์

และการทำงานของระบบหลอดเลือดอีกด้วย


องค์การอาหารและยาของสหรัฐได้ให้คำ

แนะนำว่าการ บริโภคอีพีเอ และดีเอชเอ

สามารถช่วยส่งเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด

แต่ยังไม่มีรายงานสรุปว่าสามารถลดความเสี่ยง

ของโรคหลอดเลือดและหัวใจ

ช่วยลดความเสี่ยง หัวใจวายเฉียบพลัน

จากการสำรวจและการวิจัยพบว่า ชาวเอสกิโม

ที่อาศัยอบู่บนเกาะกรีนแลนด์ แถบขั้วโลกเหนือ

มีอาชีพหลักคือเป็นชาวประมง มีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์

คือ รับประทานปลาเป็นอาหารหลัก

มีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำที่สุดในโลก นั่นแสดงให้เห็นว่า


กรดไขมันกลุ่ม Omega-3 

มีผลต่อการป้องการการเกิดโรคหัวใจ

และลดอัตราการเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน

ควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือด

กรดไขมัน Omega-3 จะส่งผลในการลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์

และยังส่งผลต่อการลดระดับ วีแอลดีแอล ในเลือด

ทำให้ลดการสะสมไขมันในผนังหลอดเลือด

เลือดตีบตันในสมองและหัวใจ สมอง ตา

และการพัฒนาการ


นอกจากนี้ กลไกการปฏิบัติงานของกรดไขมันนั้น

เกี่ยวเนื่องกับการทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DHA (ซึ่งพบมากในน้ำนมแม่ และรก)

ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตฮอร์โมน

สำหรับเด็กทารกในครรภ์ มีความสำคัญ

ต่อการเจริญเติบโตของสมองของทารกเช่นเดียวกับเซลล์อื่นๆ

สารอาหารที่มีส่วนประกอบของ DHA

และกรดอะโคคิโดนิก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่ง

ในการพัฒนาเซลล์สมอง และการพัฒนาประสาทบริเวณจอตา

หรือเรตินาของตา  ลดอาการปวดท้องรอบเดือน

Omega-3 ช่วยสร้างสารกลุ่มหนึ่งที่มีคุณลักษณะฮอร์โมน

ที่ชื่อว่า ไอโคซานอยด์ Eicosanoid

ซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันในการควบคุมระบบการแข็งตัวของเลือด

การหดตัวของเส้นเลือด การหดตัว

ของกล้ามเนื้อเรียบ(ซึ่งอยู่นอกการบังคับ)

ซึ่งช่วยลดอาการหดของมดลูก ละหากขาดแคลน โอเมก้า-3

แล้วร่างกายย่อมมีปัญหาเกี่ยวกับลิ่มเลือดแข็งตัว

ปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน


ลดอาการอักเสบ

กรดไขมัน โอเมก้า-3 จะส่งผลต่อการกำจัด

การสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบที่มีชื่อว่า Cytokines

ลดการอักเสบในกรณีที่ร่างกายเกิดการอักเสบ

เพราะต่อสู้กับเชื้อโรคหรือ ความผิดปกติต่างๆ

ช่วยลดการกำเริบของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง และมะเร็งเต้านม

(ผลการวิจัยของ New England Journal of Meddicine)


หัวใจและสมอง

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับหัวใจ กรดไขมันกลุ่มนี้ช่วยทำให้เยื่อหุ้มเซลล์

มีกลไกการปั้มเข้าออก สารต่าง ๆ

แคลเซียม โซเดียมคลอไรด์และประจุไฟฟ้าอื่น

ดำเนินไปอย่างปกติ เพื่อควบคุมการยืด

และหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ด้วยเหตุนี้ถ้ากรดโอเมก้า–3

ขาดหายไป การเต้นของหัวใจ

ย่อมผิดปกติ เรียกว่า การเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia)

ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่พบบ่อย

และเกิดแทรกซ้อนหลังจากหัวใจวาย ดังปรากฏในการทดลองกับกลุ่มผู้ชาย 295 คน

ที่เมืองซีแอตเติล ที่รับประทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะมีอัตราการเกิด ภาวะหัวใจล้มเหลว

เนื่องจากการเต้นหัวใจผิดจังหวะ เพียงครึ่งเดียวของกลุ่ม ที่ ไม่รับประทานอาหารแบบเดียวกัน


นอกจากนี้ เยื่อหุ้มเซลล์ในสมองมีโครงสร้างที่เป็นสารกรด DHA

ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้จิตแพทย์ Dr.Joseph R.Hibbeln

แห่ง National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism

เชื่อว่าถ้าปริมาณสารกรด DHAในเยื่อหุ้มเซลล์ของสมองต่ำลง

ย่อมก่อให้เกิดปัญหาในการสื่อสารทางสมอง จนเกิดความผิดปกติทางด้านจิตใจ

โดยเฉพาะความเซื่องซึม เพราะเขาเฝ้าติดตามดูในคนไข้ที่มีปัญหานี้ และนักศึกษาชาวญี่ปุ่น 22 คน

ที่มีอาการเครียด ก้าวร้าว ในช่วงก่อนสอบ ถ้าได้รับอาหารเสริมที่มีกรดไขมันกลุ่มนี้แล้ว

เขามีอาการกระด้างลดลง



สรุปคุณค่าของน้ำมันปลา และ Omega-3

1.ลดการเกิดลิ่มเลือดในเลือด

2.ช่วยควบคุมไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด

3.ช่วยควบคุมแรงดันโลหิต

4.ช่วยควบคุมอาการอักเสบ ปวด บวม อาการปวดข้อรูมาตอยด์

5.ป้องกันการอักเสบของอวัยวะต่างๆ และโรคผิวหนังบางประการ

6.ลดการเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตันเฉียบพลัน

7.ลดความข้นเหนียวของเลือด

ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีขึ้น

8.มีกรดไขมัน DHA ที่มีความสำคัญ

ต่อการพัฒนาสมองและเรตินาของดวงตา


สอบถาม 089-832-3333

สอบถาม 087-8333-999

Line Id: beautydara

กลับหน้าแรก
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น